แฟชั่น บิ๊กอาย

บิ๊กอาย กับ แฟชั่นในปัจจุบัน

เลนส์ตาโต เป็นคอนแทคเลนส์ชนิดตาโต หรือที่วัยรุ่นเรียกกันว่า “บิ๊กอาย”จะเหมือนกับคอนแทคเลนส์แฟชั่นสมัยก่อนที่มีสีสันให้เลือกมากมาย แต่ที่แตกต่างคือ เลนส์สีบริเวณตรงกลางดวงตาจะเป็นเลนส์ใสปกติแต่บริเวณขอบเลนส์จะมีสีดำ ทำให้ขอบตาคุณดูชัดมากขึ้น มีราคาตั้งแต่ 450 – 2,000 บาท

ใส่บิ๊กอายตาติดเชื้อ

บิ๊กอายทำตาบอด ติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์เตือนวัยโจ๋

แพทย์เตือนอันตรายจากคอนแทกท์เลนส์ "บิ๊กอาย" หลังมีผู้ป่วยติดเชื้อสูโดโมแนสที่ตา ทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาตัวแล้ว 4 ราย จักษุแพทย์ ระบุ เป็นแบคทีเรียร้ายแรงลามกินตาดำได้ภายใน 2 วัน รักษาไม่ทันถึงขั้นตาบอด ผู้ป่วยรับหาซื้อง่ายแม้กระทั่งตามตลาดนัด จี้ภาครัฐออกมาเข้มงวด เพราะจัดอยู่ในกลุ่ม เครื่องมือแพทย์ ต้องได้รับอนุญาตจาก อย.

เลดี้ กาก้า Lady Gaga ใส่บิ๊กอาย

เลดี้กาก้า นำเทรนบิ๊กอาย อเมริกาเตือน Big Eye เป็นอันตราย ผิดกฏหมายในอเมริกา

นับตั้งแต่กระแสความโด่งดังของ Music Video "Bad Romance" ของนักร้องสาวชาวอังกฤษ Lady Gaga ทำให้วัยรุ่นอเมริกันเริ่มนิยมใส่ Contact Lenses ที่เรียกว่า "Big Eye" กันเป็นจำนวนมาก จนหลายฝ่ายต้องออกมาเตือนในการใช้และการเลือกซื้อ เพราะวัยรุ่นจำนวนมากนิยมสั่งซื้อผ่านอินเตอร์เน็ต จากร้านค้าออนไลน์ในแถบเอเชีย...

บิ๊กอาย คอนแทคเลนส์ปลอม

อันตรายจากการใช้คอนแทคเลนส์แฟชั่น "บิ๊กอาย"

กระแสคอนแทคเลนส์แฟชั่นได้แพร่ระบาดเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อประมาณต้นปี 2549 ที่ผ่านมา โดยวัยรุ่นไทยนิยมใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นเพื่อให้ตา กลมโตเลียนแบบดาราเกาหลี และญี่ปุ่น คอนแทคเลนส์แฟชั่นดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันดีในนาม บิ๊กอายส์ หรือ คอนแทคเลนส์ตาโต ราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ระยะเวลาการใช้งานก็มีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 1 เดือนไปจนถึง 1 ปี

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อันตรายจากคอนแทคเลนส์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อันตรายจากคอนแทคเลนส์ แสดงบทความทั้งหมด

8 เม.ย. 2555

'อะแคนทะมีบา' ภัย "คอนแทคเลนส์"

ปัจจุบันหลายๆคนหันมาให้ความสำคัญกับตัวตามากขึ้น เพราะดวงตาขึ้นชื่อว่า เป็น หน้าต่างที่ทำให้เราได้มองเห็นโลกกว้าง ฉะนั้นหากไม่ดูแลรักษาให้ดี ก็อาจทำให้เราก้าวเข้าสู่โลกมืดได้โดยไม่รู้ตัว หากแต่มีหลายคนกำลังเสี่ยงต่อการมีปัญหาความผิดปกติทางสายตารุนแรงโดยไม่รู้ตัว ซึ่งนั่นก็คือกลุ่มผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ ที่ส่วนใหญ่มักละเลยรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ และข้อควรปฎิบัติโดยไม่รู้ตัว ซึ่งนั้นก็เหมือนเป็นการเปิดประตูต้อนรับสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็นอย่าง “อะแคนทะมีบา” เข้ามารุกรานและทำอันตรายต่อดวงตา

ศ.พญ.พนิดา โกสียรักษ์วงศ์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า "อะแคนทะมีบา เป็นโปรตัวซัวแบบเซลล์เดียวที่อาศัยอยู่ในน้ำและดิน มีช่วงชีวิต 2 แบบ คือ

  • แบบ “ซีสต์” มีขนาด 10-25 ไมครอน เมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เพียงแต่จะฝังตัวอยู่นิ่ง ๆ
  • แบบ “โทรโฟซอยต์” ที่เคลื่อนไหว มีขนาด 15-45 ไมครอน จะเปลี่ยนรูปร่างจาก “ซีสต์” มีฤทธิ์ทำลายดวงตา

อย่างไรก็ตาม เชื้ออะแคนทะมีบา ทั้ง 2 แบบ สามารถทนทานอยู่ได้นานในสิ่งแวดล้อมทุกรูปแบบ เช่น หนาวจัด ร้อนจัด แห้งแล้ง ขาดอาหาร สระว่ายน้ำที่ใส่คลอรีน หรือแม้แต่บ่อน้ำร้อน

เกี่ยวข้องอย่างไรกับคนใส่คอนแทคเลนส์?
ส่วนใหญ่ร้อยละ 70 ในคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ สามารถพบกระจกตาอักเสบเนื่องจากติดเชื้ออะแคนทะมีบาได้ โดยส่งผลทำให้เกิดอาการ ดังนี้ ปวดตามาก สู้แสงไม่ได้ กระจกตาขุ่น ฝ้า เป็นแผลอักเสบที่กระจกตา ในบางรายดูคล้ายอักเสบเนื่องจากติดเชื้อไวรัสเริม

เมื่อเป็นแล้วจะรักษาได้อย่างไร ?
ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด ในส่วนของการรักษา โดยทั่วไปจะต้องหยอดตาด้วยยาฆ่าเชื้อนี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะต้องผสมจากน้ำยาบางชนิดที่ไม่มีขายในท้องตลาด โดยจะต้องหยอดตาบ่อย ๆ เป็นเวลานานหลายเดือน หรืออาจเป็นปี และเฝ้าติดตามดูอาการเป็นระยะ ๆ นานหลายปี เนื่องจากเชื้ออะแคนทะมีบาสามารถมีชีวิตอยู่ในรูปแบบของซีสต์ได้นานหลายสิบปี ดังนั้นเมื่อใดที่ร่างกายอ่อนแอหรือมีเชื้อโรคที่ไปเป็นอาหารชั้นดีของเชื้ออะแคนทะมีบา ซีสต์ดังกล่าวก็จะแปลงร่างเป็นโทรโฟซอยต์ทำให้ดวงตาอักเสบทันที


จะป้องกันอย่างไรไม่ให้ติดเชื้อ?
  1. ล้างมือทำความสะอาดโดยการฟอกสบู่หลาย ๆ ครั้ง ก่อนหยิบจับคอนแทคเลนส์
  2. น้ำยาทำความสะอาดล้างเลนส์ ควรใช้ให้หมดภายใน 1 เดือน ไม่เก่าเก็บเกิน 2 เดือนหลังจากเปิดใช้แล้ว
  3. ขัดถูล้างเลนส์ทั้ง 2 ด้านเป็นเวลาพอสมควร ตลอดจนล้างขัดถูตลับแช่เลนส์ให้สะอาดทุกครั้งก่อนใส่น้ำยาแช่เลนส์ที่เปลี่ยนใหม่ทุกวัน เพราะโรคนี้มักพบในคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มบ่อยกว่าชนิดแข็ง โดยเฉพาะไม่ล้างทำความสะอาดเลนส์ทุกวันหรือใส่นอน
  4. ควรนำตลับแช่เลนส์อบไมโครเวฟทุก 2-3 สัปดาห์ และเปลี่ยนตลับใหม่ทุก 2-3 เดือน เนื่องจากเชื้อโรคนี้อยู่ทนทาน

หากคุณมีอาการหรือพฤติกรรมต่อไปนี้ อย่าใส่คอนแทคเลนส์เด็ดขาด
  1. เปลือกตาอักเสบ
  2. ตาแห้ง
  3. เป็นโรคภูมิแพ้
  4. ไม่มีเวลาดูแลล้างทำความสะอาดคอนแทคเลนส์
เนื่องจากเชื้ออะแคนทะมีบา เป็นสาเหตุสำคัญของอาการกระจกตาอักเสบ และยังส่งผลให้เกิดแผลที่ดวงดา ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ มีความอดทนต่อยาที่ใช้รักษาทุกชนิด ทำให้ต้องหยอดยาเป็นเวลานาน และในบางรายอาจไม่ตอบสนองต่อยา เป็นผลให้เชื้ออาจมีการลุกลามไปทั่วทั้งกระจกตา จนเกิดอาการอักเสบทั้งลูกตาได้

การรักษาต้องหยอดยาเป็นเวลานาน ถ้ามีอาการอักเสบมาก จักษุแพทย์จะทำการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาให้ แต่ก็สามารถกลับมามีเชื้อชนิดนี้ได้อีก จึงต้องเฝ้าติดตามดูอาการเป็นเวลานาน และในบางรายอาจมีอาการหนักถึงขั้นที่ต้องได้รับการผ่าตัดเอาลูกตาออกในที่สุดแม้ว่าจะผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาแล้วก็ตาม เนื่องจากสามารถกลับมามีเชื้อชนิดนี้ได้อีก ดังนั้น การใส่คอนแทคเลนส์แล้วปฏิบัติตัวไม่ถูกวิธี มีสิทธิติดเชื้อจนตาบอดได้ ยิ่งเห่อใส่ตามแฟชั่น ยิ่งต้องควรระวังมากกว่าปกติ เพราะหากดูแลดวงตาและรักษาคอนแทคเลนส์ไม่ถูกวิธี อาจมีเชื้อโรคเข้าสู่ดวงตาได้ง่าย หรือแค่ฝุ่นละอองปลิวเข้าตา ก็อาจพาเชื้อ “อะแคนทะมีบา” เข้าไปได้ด้วยเหมือนกัน ส่วนผู้ที่ไม่มีเวลาทำความสะอาดล้างเลนส์ แนะนำให้ใส่ชนิดรายวันแล้วทิ้ง หรือเปลี่ยนเป็นใส่แว่นตาจะปลอดภัยกว่า เพื่อให้ดวงตาคู่สวยของคุณมองเห็นโลกสดใสและจะอยู่คู่ชีวิตคุณได้ตลอดไป

6 เม.ย. 2555

อันตรายจากบิ๊กอาย โรคกระจกตาเสื่อม

ดวงตาปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นอวัยวะอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญ ในชีวิตของคนมีตาปกติต้องใช้งานดวงตาทุกวี่วันไม่มีหยุด นอกเสียจากตอนนอนหลับ หรือหลับตาเพื่อพักสายตาเพียงชั่วครู่ เมื่อดวงตาเป็นอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญถึงเพียงนี้ หากใช้แล้วไม่รู้จักพัก ดูแลไม่ดี ‘มุมสุขภาพ’ ต้องขอเตือนให้ระวัง ‘โรคกระจกตาเสื่อม’ ที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์ไม่ถูกวิธี เป็นโรคตาแห้ง และมีโรคประจำตัวที่ทำให้ต่อมน้ำตาแห้ง

อาการเตือนก็จะมีตั้งแต่แสบตา คันตา รู้สึกเจ็บตา เป็นตาแดงบ่อยๆ เห็นรอยเส้นเลือดฝอยสีแดงขึ้นในตาขาว ตาพร่ามัว เหล่านี้เป็นอาการของปัญหาตาแห้ง ส่วนผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์อย่างไม่ถูกต้อง เช่น ใช้งานเกินอายุคอนแทคเลนส์ ใส่ค้างไว้นานเกิน 8-10 ชั่วโมง หรือใส่นอน ไม่ค่อยล้างทำความสะอาดคอนแทคเลนส์และกล่องเก็บ พฤติกรรมดังกล่าวมักจะนำอาการเจ็บตา มีเยื่อเมือกสีขาวปกคลุมทั้งตาขาวและตาดำ

สาเหตุที่การใช้คอนแทคเลนส์อย่างผิดๆ ทำให้กระจกตาเปื่อยได้ก็เพราะ การใส่คอนแทคเลนส์ที่สกปรกอาจนำฝุ่นผงเข้าไปทำลายกระจกตาให้เป็นแผลถลอก และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อบักเตรี ชื่อ สูโดโมแนส แอโรจิโนซา เป็นแบคทีเรียที่เกิดขึ้นในที่เปียกชื้น ดังนั้นการนำคอนแทคเลนส์ที่มีเชื้อดังกล่าวมาใส่ จึงเป็นโอกาสให้เพาะพันธุ์เต็มดวงตาและทำลายกระจกเมื่อมีแผลเปิด ส่วนสาเหตุอาการตาแห้งแล้วกระจกตาเปื่อยได้ เนื่องจากดวงตาที่มีสภาพแห้งจะทำให้กระจกตาไม่แข็งแรง เกิดการแยก หรือการถลอก จนทำให้เกิดแผล และเป็นทางเข้าของเชื้อโรค ในที่สุดกระตกก็จะเปื่อย

โรคกระจกตาเปื่อย หากเป็นในระดับรุนแรงจะมีหนองที่ดวงตา ยิ่งถ้าหนองขึ้นเต็มดวงตา จักษุแพทย์อาจต้องผ่าตัดควักดวงตาออกเพื่อป้องกันมิให้เชื้อแบคทีเรียชนิด ดังกล่าวลุกลามไปยังสมองหรืออวัยวะอื่นๆ ทว่าอาการที่ไม่รุนแรงก็ยังพอรักษาด้วยยาได้ ไม่อยากเป็นโรคกระจกตาเปื่อย ต้องไม่ขาดวิตามินเอ ที่มีสรรพคุณบำรุงสายตา มีมากในผักและผลไม้สีเขียว ผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือทำงานในที่มีแสงสว่างน้อย ต้องหมั่นพักสายตาทุกๆ 1 ชั่วโมง กรณีที่สงสัยว่า ตนเองมีอาการตาแห้งเกิดขึ้นบ่อยๆ ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อวัดปริมาณน้ำตา ถือเป็นการป้องกันโรคกระจกตาเสื่อมได้

ที่มา : ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=457&contentID=148914

5 เม.ย. 2555

โรคกระจกตาเปื่อย ภัยร้ายใกล้ตัวคนใส่คอนแทคเลนส์

โรคกระจกตาเปื่อยอาจเกิดได้กับคนที่ไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์ หรืออาจเกิดจากอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดแผลที่ดวงตา แต่กลุ่มที่เสี่ยงมากที่สุดก็คือ กลุ่มคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ผิดวิธี ตัวอย่างการใช้คอนแทคเลนส์ผิดวิธีคือ การใส่คอนแทคเลนส์ที่หมดอายุ เช่น คุณอาจลองใส่แล้วก็พบว่า ใส่แล้วก็ยังมองเห็นชัดอยู่ อีกทั้งนานๆถึงใส่ซักครั้ง หากใครเคยมีความคิดแบบบข้างต้น คุณกำลังใส่คอนแทคเลนส์แบบผิดวิธี เพราะคอนแทคเลนส์เมื่อเปิดใช้แล้ว อายุของมันจะมีกำหนด เช่น คอนแทคเลนส์แบบรายปี คอนแทคเลนส์รายเดือน และ คอนแทคเลนส์แบบรายวัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทคอนแทคเลนส์ที่คุณเลือกใช้

ข้อห้ามสำคัญอีกประกาศหนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่อาจละเลย จะด้วยเหตุผลอันใดก็ตามถือว่า คุณมีความเสี่ยงมาก คือการใส่คอนแทคเลนส์ขณะนอนหลับ ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะกระจกตาต้องการออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยง เมื่อมีคอนแทคเลนส์ขวางอยู่ ทำให้ออกซีเจนไม่สามารถเข้าไปเลี้ยงกระจกตาได้ ยิ่งถ้าใส่คอนแทคเลนส์ติดต่อกันหลายวัน โดยที่ไม่มีการล้างทำความสะอาด โดยเฉพาะกล่องใส่คอนแทคเลนส์ ซึ่งทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค เมื่อใส่คอนแทกเลนส์ที่มีเชื้อโรคสะสมอยู่ ทำให้เชื้อโรคที่สัมผัสกระจกตา ปล่อยสารที่มีฤทธิ์ย่อยเยื่อกระจกตาไปเรื่อย ๆ อันเป็นอีกสาเหตุของโรคกระจกตาเปือย ซึ่งรุนแรงถึงขั้นตาบอดในชั่วข้ามคืนได้

รายการอโรคา ปาร์ตี้ ตอนโรคกระจกตาเปื่อย โดย พญ.อรวรรณ จิตต์พูลกุศล
แพทย์ศูนย์โรคตา โรงพยาบาลพญาไท 3

14 ส.ค. 2554

วิธีสังเกตความผิดปกติของดวงตา และแนวทางการรักษา

ผลแทรกซ้อนของคอนแทคเลนส์ที่มีได้ก็เสมอคือเรื่องการติดเชื้อ การติดเชื้อที่เกิดขึ้นจะรุนแรงกว่าตาแดงตาอักเสบทั่วไปที่ไม่มีคอนแทคเลนส์ เพราะว่าเชื้อมักจะเกาะอยู่ที่คอนแทคเลนส์และทำให้ภูมิคุ้มกันและยาเข้าไปไม่ถึง นอกจากนี้การติดเชื้่อก็มักจะมีเชื้อที่รุนแรงไม่เจอบ่อย


ใส่คอนแทคเลนส์ ตาผิดปกติ

การติดเชื้ออย่างเบาๆมีตั้งแต่ตาแดง กระจกตาอักเสบ แผลที่กระจกตา ไปจนถึงติดเชื้อเข้าไปในลูกตาซึ่งสองชนิดหลังสามารถทำให้ตาบอดได้เลยทีเดียว และที่เจอได้ต่อมาก็คืออาการตาแห้ง เจอได้บ่อยในผู้ป่วยที่ใช้คอนแทคเลนส์มานานๆหรือแพ้น้ำยาล้างหรือคอนแทคเลนส์ ผลข้างเคียงทั้งสองอย่างนี้เจอได้มากขึ้นหากว่าใช้ผิดวิธี เช่น ใส่นานเกินวันละ 8 ชั่วโมง ใส่แล้วนอนหลับค้างคืน หรือล้างน้ำยาได้ไม่สะอาดพอ , การใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่เหมาะสม เช่น ออกซิเจนผ่านน้อยไป เลือกขนาดความโค้งไม่เหมาะสม หากพบว่าใส่แล้วเกิดอาการเคืองตา ควรตรวจสอบว่าคอนแทคเลนส์ที่ใช้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมหรือไม่ ควรถอดออกแล้วพักการใช้เปลี่ยนไปใช้แว่นสายตาแทน หากตาแดง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูว่ามีแผลที่กระจกตาหรือไม่ เพราะแผลเหล่านี้ไม่สามารถสังเกตได้ง่ายๆด้วยการมองตาเปล่า

ผลข้างเคียงเหล่านี้สามารถพบได้ แม้ว่าจะใช้คอนแทคเลนส์ที่มีคุณภาพดีอย่างถูกต้องและปฏิบัติทุกวิธีอย่างเหมาะสม แต่ผลข้างเคียงจะเพิ่มขึ้นได้มากหากใช้คอนแทคเลนส์ที่คุณภาพไม่ดีหรือผิดวิธีได้แก่

  1. คอนแทคเลนส์ที่ไม่ได้มาตรฐาน บางชนิดอาจจะมีสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตาได้ หลายครั้งพบว่าใส่ๆไปแล้วสีหลุดออกมาติดลูกตาเลยก็มี
  2. พวกคอนแทคเลนส์กลุ่มประดับ หลายตัวเป็นชนิดแข็งกว่าปกติ พวกนี้บาดระคายเคืองง่าย ออกซิเจนผ่านน้อย โอกาสเกิดการติดเชื้อสูงกว่าปกติอยู่แล้ว
  3. ในกลุ่มที่มีสีสรรแปลกๆ ต้องระวังเรื่องความร้อนไว้ด้วย เนื่องจากมีรายงานว่าถ้าหากใส่แล้วไปเจอความร้อนหรือเลเซอร์เวลารักษาสิว สีที่ปกติไม่หลุดออกมาก็สามารถหลุดออกมาได้ (เลนส์ไม่ละลาย แต่สีละลายหลุดมาติดกับลูกตาสีสรรสดใสและงดงาม)

7 เม.ย. 2551

[ข่าว] คนขายหัวหมอหลอกขายคอนแทคเลนส์

เมื่อก่อนนี้การแก้ไขปัญหาสายตาสั้น ยาว หรือเอียง คือ การสวมแว่นสายตา ใส่คอนแทคเลนส์ หรือทำเลสิก ซึ่งสาวๆส่วนใหญ่มักเลือกใช้คอนแทคเลนส์ แทนการสวมแว่นสายตาที่อาจจะทำเชยและแก่เกินไว ส่วนการทำเลสิกก็ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงจึงไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไหร่

ส่วนเหตุผลที่เลือกใส่คอนแทคเลนส์นั้นก็เพราะ ราคา สี แบบ อายุการใช้งานที่หลากหลาย และที่สำคัญเมื่อมีเรื่องแฟชั่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ความงามจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่คอนแทคเลนส์นั้นได้รับความนิยม โดยเฉพาะแบบ ‘บิ๊กอาย’ ที่ใส่แล้วจะทำให้ดวงตาดูกลมโต น่ารัก สไตล์สาวแดนโสม เมื่อเกิดความนิยมมาก ผู้ค้า(หัวหมอ)จึงนำคอนแทคเลนส์มาขายเพื่อตอบสนองความต้องการ แถมยังจูงใจด้วยกลยุทธ์ต่างๆ ทั้งลด แลก แจก แถม!

ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า มีร้านค้าแห่งหนึ่งหลอกขายคอนแทคเลนส์ ด้วยการนำคอนแทคเลนส์ชนิดรายวันยี่ห้อหนึ่ง มาอ้างว่าเป็นชนิดรายเดือน โดยการใช้ปากกาเมจิกเขียนทับข้อความ ‘1 Day’ ว่า ‘บิ๊กอาย’ แถมหลอกล่อว่า ซื้อ 1 แถม 1 ในราคาที่คุ้มสุดๆ เพียง 450 บาท

เมื่อลูกค้าตกลงซื้อ พนักงานขายก็จะบอกให้ใส่คอนแทคเลนส์ทันที 1 คู่ โดยอ้างเหตุผลว่าจะต้องนำชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์ส่งกลับไปยังบริษัทผู้ผลิตเป็นหลักฐานการแถมสินค้าตามโปรโมชั่น ส่วนอีกคู่ เขาก็จะรีบใส่ถุงหูหิ้วแล้วเย็บแม๊กปิดทันที เนื่องจากภายในร้านตั้งเงื่อนไขไว้ว่า “สินค้าซื้อแล้วไม่รับเปลี่ยนหรือแลกเงินคืน”

ทันทีที่ลูกค้าสาวคนดังกล่าวกลับถึงบ้าน เธออยากจะชื่นชมสินค้าที่ซื้อมาได้ในราคาอันคุ้มค่า เมื่อเธอแกะถุง นิ้วมือบังเอิญไปถูบริเวณหมึกจากปากกาที่เขียนว่า ‘บิ๊กอาย’ ให้เลือนออก และปรากฏเป็นคำว่า ‘1 Day’!  สายตาที่พยายามจับจ้องดูให้แน่ใจ ก็ทำให้ได้คำตอบว่าเธอ ‘ถูกหลอก’ แม้จะเป็นราคาเพียงไม่กี่ร้อย แต่เมื่อคิดถึงความปลอดภัยในระยะเวลาการใช้งานที่แตกต่างกันระหว่างแบบ ‘1 วัน กับ 1 เดือน’ มันทำให้เธอเป็นห่วงสุขภาพดวงตา เพราะการใส่คอนแทคเลนส์ที่หมดอายุอาจส่งผลให้มีปัญหาสายตา รุนแรงถึงขั้นตาปอด เพราะคอนแทคเลนส์หมดสภาพ ไม่มีออกซิเจนไปหล่อที่ดวงตา

วันรุ่งขึ้น เธอนำคอนแทคเลนส์ที่ซื้อมาจากร้านค้าจอมลวงไปคืน เบื้องต้น เจ้าของร้านและพนักงานขายบ่ายเบี่ยงที่จะคืนเงิน โดยเสนอให้เปลี่ยนเป็นยี่ห้อ หรือแบบ แต่ด้วยความหมดศรัทธาเนื่องจากความไม่ซื่อสัตย์ เธอจึงยืนกรานเสียงแข็งขอเงินคืน จนในที่สุดเจ้าของร้านก็ต้องยอม

ก่อนซื้อคอนแทคเลนส์มาใส่จึงจำเป็นที่จะต้องตรวจดูสินค้า ลักษณะของบรรจุภัณฑ์อย่างละเอียด ไม่ควรเลือกซื้อสินค้าจากร้านที่มีการเขียนข้อความบดบังรายละเอียด ตรวจเช็คสินค้าทันทีหากทางร้านบรรจุใส่ลงในถุง และที่สำคัญควรเลือกซื้อคอนแทคเลนส์โดยพิจารณาความเหมาะสมทางด้านราคาและอายุการใช้งานที่สอดคล้องกัน ทางที่ดีควรเลือกร้านค้าที่มีมาตรฐานและเชื่อถือได้ด้วย ...

4 เม.ย. 2551

[ข่าว] ตาขาดออกซิเจน เหตุเพราะใช้คอนแทกเลนส์บ่อย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคอนแทกเลนส์ สามารถช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ให้ดีขึ้นได้ แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสายตา ออกมาเตือนว่าการใส่คอนแทกเลนส์บ่อยๆ อาจส่งผลเสียต่อดวงตาได้

โดยจักษุแพทย์กล่าวเตือนด้วยความห่วงใย ถึงเรื่องความนิยมใช้คอนแทกเลนส์สีเป็นแฟชั่น แนะนำว่าไม่ควรจะใช้จนเกร่อเกินไป

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการใช้คอนแทกเลนส์ ผู้มีชื่อเสียงของกรุงนิว เดลี หมอจารี กล่าวว่า บางคนที่ใช้บ่อยๆ อาจจะทำให้เกิดการแพ้ก็ได้ อีกทั้ง "ไม่ควรจะให้เด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ คนทั่วไปอาจจะเห็นว่าคอนแทกเลนส์ใช้ต่างแว่นตาธรรมดาได้ แต่มันไม่อาจจะแทนแว่นตาได้"

นอกจากนี้ ยังไม่ควรจะใช้คอนแทกเลนส์แทนแว่นตาเป็นประจำ "การใช้เป็นประจำ ไม่เหมาะกับดวงตา เพราะการที่มีเลนส์ไปปิดดวงตาไว้ จะไปปิดกั้นไม่ให้ดวงตาได้รับออกซิเจน ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดี"

Loading

Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More