แฟชั่น บิ๊กอาย

บิ๊กอาย กับ แฟชั่นในปัจจุบัน

เลนส์ตาโต เป็นคอนแทคเลนส์ชนิดตาโต หรือที่วัยรุ่นเรียกกันว่า “บิ๊กอาย”จะเหมือนกับคอนแทคเลนส์แฟชั่นสมัยก่อนที่มีสีสันให้เลือกมากมาย แต่ที่แตกต่างคือ เลนส์สีบริเวณตรงกลางดวงตาจะเป็นเลนส์ใสปกติแต่บริเวณขอบเลนส์จะมีสีดำ ทำให้ขอบตาคุณดูชัดมากขึ้น มีราคาตั้งแต่ 450 – 2,000 บาท

ใส่บิ๊กอายตาติดเชื้อ

บิ๊กอายทำตาบอด ติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์เตือนวัยโจ๋

แพทย์เตือนอันตรายจากคอนแทกท์เลนส์ "บิ๊กอาย" หลังมีผู้ป่วยติดเชื้อสูโดโมแนสที่ตา ทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาตัวแล้ว 4 ราย จักษุแพทย์ ระบุ เป็นแบคทีเรียร้ายแรงลามกินตาดำได้ภายใน 2 วัน รักษาไม่ทันถึงขั้นตาบอด ผู้ป่วยรับหาซื้อง่ายแม้กระทั่งตามตลาดนัด จี้ภาครัฐออกมาเข้มงวด เพราะจัดอยู่ในกลุ่ม เครื่องมือแพทย์ ต้องได้รับอนุญาตจาก อย.

เลดี้ กาก้า Lady Gaga ใส่บิ๊กอาย

เลดี้กาก้า นำเทรนบิ๊กอาย อเมริกาเตือน Big Eye เป็นอันตราย ผิดกฏหมายในอเมริกา

นับตั้งแต่กระแสความโด่งดังของ Music Video "Bad Romance" ของนักร้องสาวชาวอังกฤษ Lady Gaga ทำให้วัยรุ่นอเมริกันเริ่มนิยมใส่ Contact Lenses ที่เรียกว่า "Big Eye" กันเป็นจำนวนมาก จนหลายฝ่ายต้องออกมาเตือนในการใช้และการเลือกซื้อ เพราะวัยรุ่นจำนวนมากนิยมสั่งซื้อผ่านอินเตอร์เน็ต จากร้านค้าออนไลน์ในแถบเอเชีย...

บิ๊กอาย คอนแทคเลนส์ปลอม

อันตรายจากการใช้คอนแทคเลนส์แฟชั่น "บิ๊กอาย"

กระแสคอนแทคเลนส์แฟชั่นได้แพร่ระบาดเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อประมาณต้นปี 2549 ที่ผ่านมา โดยวัยรุ่นไทยนิยมใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นเพื่อให้ตา กลมโตเลียนแบบดาราเกาหลี และญี่ปุ่น คอนแทคเลนส์แฟชั่นดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันดีในนาม บิ๊กอายส์ หรือ คอนแทคเลนส์ตาโต ราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ระยะเวลาการใช้งานก็มีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 1 เดือนไปจนถึง 1 ปี

12 เม.ย. 2551

ตาโตสวย ด้วย บิ๊กอายส์ อย่างถูกวิธี

คำเตือน-คำแนะนำจากแพทย์

รศ.นพ.ปริญญ์ โรจนพงศ์พันธุ์ ประธานฝ่ายวิชาการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย และอาจารย์ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า คอนแทกต์เลนส์ตาโต หรือ บิ๊กอายส์ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มความสวยงามแก่ดวงตา ทำให้ตาโตขึ้น ซึ่งบิ๊กอายส์จะมีเลนส์ขนาด 13.5-14.0 มิลลิเมตร ในขณะที่ตาดำคนปกติจะมีขนาด 10.5 มิลลิเมตร ซึ่งปกติตาของคนจะประกอบด้วยกระจกตา (Cornea) มีลักษณะใสเหมือนกระจกไม่มีสี แต่สีจากม่านตา (iris) ของคนเอเชียจะมีม่านตาสีน้ำตาลเข้มถึงสีดำ ทำให้เห็นเป็นตาดำ

"บิ๊กอายส์” แฟชั่น (ต้องระวัง) ของคนอยาก “ตาโต”

ด้วยความคิดที่ว่า สาว “ตาเล็ก” หรือ “ตาชั้นเดียว” ไม่สวย ไม่มีเสน่ห์ ทำให้บรรดาสาววัยรุ่นชาวเอเชียจำนวนไม่น้อยพยายามดิ้นรนที่จะเพิ่มขนาดของดวงตาให้ใหญ่ขึ้น เช่น การผ่าตัดทำตาสองชั้น เป็นต้น ซึ่งล่าสุด ก็มาถึงคิวของนวัตกรรมใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสาวๆ ชาวญี่ปุ่นและเกาหลี นั่นก็คือ “คอนแทกต์เลนส์ตาโต” หรือที่รู้จักกันในชื่อของ “บิ๊กอายส์
และแน่นอนว่า ขณะนี้ได้แพร่สะพัดมาสู่สาวตาเล็กชาวไทยไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุผลเพื่อเพิ่มขนาดของดวงตาและทำให้ตาหวาน ที่น่าตกใจก็คือ ไม่ใช่แค่เพียงสาวๆ เท่านั้น หากยังลามไปถึงผู้ชายและบรรดาเพศที่ 3 ทั้งหลายอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การใส่บิ๊กอายส์ก็จะใช่ว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะล่าสุดเพิ่งมีคำเตือนจากกระทรวงสาธารณสุขไทย ว่า การใส่บิ๊กอายส์นั้น เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะการนำสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในดวงตา ถือเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตราย เนื่องจากดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญที่บอบบางที่สุด หากเกิดปัญหาขึ้นกับดวงตาและไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง อาจถึงขั้นตาบอดได้

8 เม.ย. 2551

[ข่าว] สธ.ประกาศคุมเข้มคอนแทคเลนส์-ป้องดวงตาผู้ใช้ได้รับอันตราย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 19 พฤษาภคม 2552 เพื่อควบคุมการผลิตและนำเข้า เลนส์สัมผัสหรือคอนแทคเลนส์ให้เป็นเครื่องมือแพทย์ที่ต้องได้รับใบอนุญาตและ มีคุณภาพมาตรฐานตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนดเพื่อประโยชน์ในการ คุ้มครองความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคในการใช้คอนแทคเลนส์สัมผัสทุกประเภทและ เพื่อเป็นการป้องกันการนำเลนส์ไปใช้ในทางที่ผิด

สาระสำคัญของประกาศมีดังนี้
1.ให้ผู้รับอนุญาตผลิตหรือนำเข้าเลนส์สัมผัสจัดให้มีฉลากเลนส์สัมผัสที่ขาย หรือมีไว้เพื่อขายแสดงข้อความไว้บนภาชนะบรรจุหรือหีบห่อบรรจุอย่างชัดเจน เป็นข้อความภาษาไทย และจะมีภาษาอื่นนอกจากภาษาไทยด้วยก็ได้ แต่ข้อความภาษาอื่นต้องมีความหมายตรงกับข้อความภาษาไทยโดยอย่างน้อยแสดงราย ละเอียดดังต่อไปนี้
 
(1) ชื่อ ประเภท และชนิดของเลนส์สัมผัส
(2) ชื่อ และสถานที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า แล้วแต่กรณี ในกรณีเป็นผู้นำเข้าให้แสดงชื่อผู้ผลิต เมืองและประเทศผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์นั้นด้วย
(3) จำนวนเลนส์สัมผัสที่บรรจุ
(4) เลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต
(5) เดือน ปีที่หมดอายุ
(6) เลขที่ใบอนุญาตเครื่องมือแพทย์
(7) ประโยชน์ วิธีการใช้ และวิธีการเก็บรักษา
(8) คำแนะนำ ต้องแสดงข้อความว่า “การใช้เลนส์สัมผัสควรได้รับการสั่งใช้และตรวจติดตามทุกปีโดยจักษุแพทย์ หรือผู้ประกอบโรคศิลปะโดยอาศัยทัศนมาตรศาสตร์เท่านั้น” แสดงด้วยอักษรสีแดงที่เห็นได้ชัดเจน ขนาดความสูงตัวอักษรไม่น้อยกว่า ๒ มิลลิเมตร
(9) ระยะเวลาในการใช้งาน สำหรับเลนส์สัมผัสที่มีกำหนดระยะเวลาการใช้งาน แสดงด้วยอักษรขนาดที่เห็นได้ชัดเจน ขนาดความสูงตัวอักษรไม่น้อยกว่า 2 มิลลิเมตร
(10) คำเตือน ต้องแสดงข้อความอย่างน้อยว่า การใช้เลนส์สัมผัสโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ที่ผิดวิธี มีความเสี่ยงต่อการอักเสบหรือการติดเชื้อของดวงตา อาจรุนแรงถึงขั้นสูญเสียสายตาอย่างถาวรได้

(11) ข้อห้ามใช้ ต้องแสดงข้อความอย่างน้อย ดังนี้
(ก) ห้ามใส่เลนส์สัมผัสนานเกินระยะเวลาใช้งานที่กำหนด
(ข) ห้ามใช้เลนส์สัมผัสร่วมกับบุคคลอื่น
(ค) ห้ามใส่เลนส์สัมผัสทุกชนิดเวลานอน ถึงแม้จะเป็นชนิดใส่นอนได้ก็ตาม ควรถอดล้างทำความสะอาดทุกวัน

(12) ข้อควรระวังในการใช้ ต้องแสดงข้อความอย่างน้อยดังนี้
(ก) ผู้ที่มีสภาวะของดวงตาผิดปกติ เช่น ต้อเนื้อ ต้อลม ตาแดง กระจกตาไวต่อความรู้สึกลดลง ตาแห้ง กระพริบตาไม่เต็มที่ ไม่ควรใช้เลนส์สัมผัส
(ข) ควรใช้น้ำยาล้างเลนส์สัมผัสที่ใหม่ และเปลี่ยนน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสำหรับเลนส์สัมผัสทุกครั้งที่แช่เลนส์สัมผัส และแม้ไม่ใส่เลนส์สัมผัส ควรเปลี่ยนน้ำยาใหม่ในตลับทุกวัน
(ค) ควรเปลี่ยนตลับใส่เลนส์สัมผัสทุกสามเดือน
(ง) ข้อความ “ไม่ควรใส่เลนส์สัมผัสขณะว่ายน้ำ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ตาได้”หรือ “ห้ามใส่เลนส์สัมผัสขณะว่ายน้ำ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ตาได้” แล้วแต่กรณี ตามที่ผู้ผลิตกำหนด
(จ) ล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดทุกครั้งก่อนสัมผัสเลนส์
(ฉ) หากเกิดอาการผิดปกติ เช่น เจ็บหรือปวดตาเป็นอย่างมากร่วมกับอาการแพ้แสงตามัวลง น้ำตาไหลมาก ตาแดง ให้หยุดใช้เลนส์สัมผัสทันที และรีบพบจักษุแพทย์โดยเร็ว

2.ให้ผู้รับอนุญาตผลิตหรือนำเข้าเลนส์สัมผัสต้องจัดให้มีเอกสารกำกับเครื่อง มือแพทย์ของเลนส์สัมผัสที่ขายหรือมีไว้เพื่อขายเป็นข้อความภาษาไทย และจะมีภาษาอื่นนอกจากภาษาไทยก็ได้ แต่ข้อความภาษาอื่นต้องมีความหมายตรงกับข้อความภาษาไทย
3.ให้ผู้รับอนุญาตผลิตหรือนำเข้าเลนส์สัมผัส จัดทำรายงานการขายเลนส์สัมผัสตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาประกาศกำหนด

ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ประกาศ ณ วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2552)



เนื่องจากทางสำนักงานคณะกรรมอาหารและยาสั่งคุมเข้มสินค้าประเภทนี้มากขึ้น เพราะหากนำมาใช้อย่างไม่ถูกต้องเหมาะสมอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ได้ ดังนั้นทางอย. จึงเห็นควรกำหนดให้มีการควบคุมเลนส์สัมผัสทุกประเภทเป็นเครื่องมือแพทย์ควบคุมอย่างเข้มงวดขึ้น

ซึ่งในการโฆษณา"บิ๊กอาย-คอนแทคเลนส์" ถือเป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่มเครื่องมือแพทย์ ดังนั้นการโฆษณานั้นต้องมีเลขที่ใบอนุญาตโฆษณาเครื่องมือแพทย์ ถึงจะสามารถทำการโฆษณาได้ ฉะนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ ควรตรวจสอบใบอนุญาต และรายละเอียดของร้านค้าให้ดีเสียก่อน

ข้อมูลจาก : http://www.matichon.co.th/

7 เม.ย. 2551

[ข่าว] คนขายหัวหมอหลอกขายคอนแทคเลนส์

เมื่อก่อนนี้การแก้ไขปัญหาสายตาสั้น ยาว หรือเอียง คือ การสวมแว่นสายตา ใส่คอนแทคเลนส์ หรือทำเลสิก ซึ่งสาวๆส่วนใหญ่มักเลือกใช้คอนแทคเลนส์ แทนการสวมแว่นสายตาที่อาจจะทำเชยและแก่เกินไว ส่วนการทำเลสิกก็ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงจึงไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไหร่

ส่วนเหตุผลที่เลือกใส่คอนแทคเลนส์นั้นก็เพราะ ราคา สี แบบ อายุการใช้งานที่หลากหลาย และที่สำคัญเมื่อมีเรื่องแฟชั่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ความงามจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่คอนแทคเลนส์นั้นได้รับความนิยม โดยเฉพาะแบบ ‘บิ๊กอาย’ ที่ใส่แล้วจะทำให้ดวงตาดูกลมโต น่ารัก สไตล์สาวแดนโสม เมื่อเกิดความนิยมมาก ผู้ค้า(หัวหมอ)จึงนำคอนแทคเลนส์มาขายเพื่อตอบสนองความต้องการ แถมยังจูงใจด้วยกลยุทธ์ต่างๆ ทั้งลด แลก แจก แถม!

ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า มีร้านค้าแห่งหนึ่งหลอกขายคอนแทคเลนส์ ด้วยการนำคอนแทคเลนส์ชนิดรายวันยี่ห้อหนึ่ง มาอ้างว่าเป็นชนิดรายเดือน โดยการใช้ปากกาเมจิกเขียนทับข้อความ ‘1 Day’ ว่า ‘บิ๊กอาย’ แถมหลอกล่อว่า ซื้อ 1 แถม 1 ในราคาที่คุ้มสุดๆ เพียง 450 บาท

เมื่อลูกค้าตกลงซื้อ พนักงานขายก็จะบอกให้ใส่คอนแทคเลนส์ทันที 1 คู่ โดยอ้างเหตุผลว่าจะต้องนำชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์ส่งกลับไปยังบริษัทผู้ผลิตเป็นหลักฐานการแถมสินค้าตามโปรโมชั่น ส่วนอีกคู่ เขาก็จะรีบใส่ถุงหูหิ้วแล้วเย็บแม๊กปิดทันที เนื่องจากภายในร้านตั้งเงื่อนไขไว้ว่า “สินค้าซื้อแล้วไม่รับเปลี่ยนหรือแลกเงินคืน”

ทันทีที่ลูกค้าสาวคนดังกล่าวกลับถึงบ้าน เธออยากจะชื่นชมสินค้าที่ซื้อมาได้ในราคาอันคุ้มค่า เมื่อเธอแกะถุง นิ้วมือบังเอิญไปถูบริเวณหมึกจากปากกาที่เขียนว่า ‘บิ๊กอาย’ ให้เลือนออก และปรากฏเป็นคำว่า ‘1 Day’!  สายตาที่พยายามจับจ้องดูให้แน่ใจ ก็ทำให้ได้คำตอบว่าเธอ ‘ถูกหลอก’ แม้จะเป็นราคาเพียงไม่กี่ร้อย แต่เมื่อคิดถึงความปลอดภัยในระยะเวลาการใช้งานที่แตกต่างกันระหว่างแบบ ‘1 วัน กับ 1 เดือน’ มันทำให้เธอเป็นห่วงสุขภาพดวงตา เพราะการใส่คอนแทคเลนส์ที่หมดอายุอาจส่งผลให้มีปัญหาสายตา รุนแรงถึงขั้นตาปอด เพราะคอนแทคเลนส์หมดสภาพ ไม่มีออกซิเจนไปหล่อที่ดวงตา

วันรุ่งขึ้น เธอนำคอนแทคเลนส์ที่ซื้อมาจากร้านค้าจอมลวงไปคืน เบื้องต้น เจ้าของร้านและพนักงานขายบ่ายเบี่ยงที่จะคืนเงิน โดยเสนอให้เปลี่ยนเป็นยี่ห้อ หรือแบบ แต่ด้วยความหมดศรัทธาเนื่องจากความไม่ซื่อสัตย์ เธอจึงยืนกรานเสียงแข็งขอเงินคืน จนในที่สุดเจ้าของร้านก็ต้องยอม

ก่อนซื้อคอนแทคเลนส์มาใส่จึงจำเป็นที่จะต้องตรวจดูสินค้า ลักษณะของบรรจุภัณฑ์อย่างละเอียด ไม่ควรเลือกซื้อสินค้าจากร้านที่มีการเขียนข้อความบดบังรายละเอียด ตรวจเช็คสินค้าทันทีหากทางร้านบรรจุใส่ลงในถุง และที่สำคัญควรเลือกซื้อคอนแทคเลนส์โดยพิจารณาความเหมาะสมทางด้านราคาและอายุการใช้งานที่สอดคล้องกัน ทางที่ดีควรเลือกร้านค้าที่มีมาตรฐานและเชื่อถือได้ด้วย ...

5 เม.ย. 2551

[ข่าว] "บิ๊กอายส์" เทรนด์ใหม่วัยรุ่น ใส่แล้วเหมือนดาราญี่ปุ่น

เรื่องราวคอนแทคเลนส์ตาโต หรือบิ๊กอายส์ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากผู้ปกครองท่านหนึ่ง ซึ่งได้สังเกตเห็นพฤติกรรมของลูกสาววัย 17 ปี ที่ชอบใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นใหม่ ที่นอกจากจะเป็นคอนแทคเลนส์สีแฟชั่น ยังมีส่วนช่วยให้ดวงตากลมโตโดยไม่ต้องทำศัลยกรรม ซึ่งเป็นเทรนด์แฟชั่นใหม่ตามแบบเทรนด์ดาราเกาหลีและญี่ปุ่น

ผู้ปกครองรายเดิมกล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เริ่มสังเกตพฤติกรรมของบุตรสาวมาระยะหนึ่ง หลังจากสังเกตเห็นดวงตาของลูกสาวที่ดูโตขึ้นมา เมื่อไต่ถามจึงทราบจากบุตรสาวว่า คอนแทคเลนส์ตาโตเป็นแฟชั่นตามสมัยนิยมของกลุ่มวัยรุ่นไทย โดยเฉพาะผู้หญิงกำลังเป็นที่นิยมซื้อหามาสวมใส่ โดยมีราคา 1 คู่ ประมาณเงินหลักพันบาท ส่วนแหล่งซื้อหานอกจากคอนแทคเลนส์ตาโตจะหาซื้อตามร้านเฉพาะ ความนิยมยังส่งผลให้มีการขายผ่านทางเว็บไซต์เลนส์ทูยู ดอทคอม, ร้านค้าออนไลน์ทั่วไป รวมถึงมีการจำหน่ายตามแผงเช่าแหล่งแฟชั่นย่านสยามสแควร์, มาบุญครอง และลาดพร้าว ซึ่งจะเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่วัยรุ่น

4 เม.ย. 2551

[ข่าว] ตาขาดออกซิเจน เหตุเพราะใช้คอนแทกเลนส์บ่อย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคอนแทกเลนส์ สามารถช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ให้ดีขึ้นได้ แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสายตา ออกมาเตือนว่าการใส่คอนแทกเลนส์บ่อยๆ อาจส่งผลเสียต่อดวงตาได้

โดยจักษุแพทย์กล่าวเตือนด้วยความห่วงใย ถึงเรื่องความนิยมใช้คอนแทกเลนส์สีเป็นแฟชั่น แนะนำว่าไม่ควรจะใช้จนเกร่อเกินไป

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการใช้คอนแทกเลนส์ ผู้มีชื่อเสียงของกรุงนิว เดลี หมอจารี กล่าวว่า บางคนที่ใช้บ่อยๆ อาจจะทำให้เกิดการแพ้ก็ได้ อีกทั้ง "ไม่ควรจะให้เด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ คนทั่วไปอาจจะเห็นว่าคอนแทกเลนส์ใช้ต่างแว่นตาธรรมดาได้ แต่มันไม่อาจจะแทนแว่นตาได้"

นอกจากนี้ ยังไม่ควรจะใช้คอนแทกเลนส์แทนแว่นตาเป็นประจำ "การใช้เป็นประจำ ไม่เหมาะกับดวงตา เพราะการที่มีเลนส์ไปปิดดวงตาไว้ จะไปปิดกั้นไม่ให้ดวงตาได้รับออกซิเจน ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดี"

[ข่าว] เตือนวัยรุ่นฮิตใส่ "บิ๊กอายส์" ระวัง! เสี่ยงตาบอด

แฟชั่นสุดฮิต.. ในกลุ่มวัยรุ่น ที่นิยมใส่คอนแท็กต์เลนส์ "บิ๊ก อายส์" ทำให้ ดูตากลมโต ตามแฟชั่นดารานักร้องเกาหลี เสี่ยงเกิดอันตรายถึงขั้นตาบอดได้ แล้วหากนำมาแลกเปลี่ยนกันใส่ ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ได้อีกด้วย ก่อนใส่จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตา อย่าซื้อใส่เองโดยพลการ อาจเกิดอันตรายกับดวงตาของเราได้

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. น.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เตือนสติวัยรุ่นไทย
ที่ปัจจุบันชอบเลียนแบบดารานักร้องจากเกาหลี ทั้งกิริยาท่าทาง การแต่งหน้า แต่งตัว การทำทรงผม โดยล่าสุดพบว่าวัยรุ่นไทยกำลังนิยมใส่คอนแท็กต์เลนส์ตาโต หรือ "บิ๊ก อายส์" ที่มีหลายสี หลายขนาด และหลายรูปแบบ เพื่อให้ดวงตาดูกลมโตขึ้นกว่าปกติ โดยสามารถเปลี่ยนสีได้ตามใจชอบ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะการทำสิ่งใดกับดวงตาถือเป็นเรื่องเสี่ยงอันตราย เนื่องจากดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญและบอบบางที่สุด หากเกิดปัญหากับดวงตาและไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้องก็อาจส่งผลให้ตาบอดได้ จึงอยากให้วัยรุ่นตามกระแสแฟชั่นอย่างมีสติ รู้จักระมัดระวังและชั่งน้ำหนักถึงผลดีและผลเสียที่จะตามมาด้วย


ด้าน น.พ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวว่า คอนแท็กต์เลนส์ถือเป็นวัสดุทางการแพทย์ ที่เป็นทางเลือกสำหรับบุคคลที่มีปัญหาทางด้านสายตา แต่ไม่สามารถใส่แว่นได้ การตัดสินใจใส่คอนแท็กต์เลนส์จึงควรปรึกษาจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านตาโดย เฉพาะ ส่วนคอนแท็กต์เลนส์ที่ใช้เพื่อวัตถุ ประสงค์อื่น อาทิ เปลี่ยนสีตา ขยายขนาดของตาดำ มักจะใช้ในกลุ่มผู้ที่ต้องอาศัยรูปร่างหน้าตาในการประกอบอาชีพ อาทิ ดารา นักร้องและนางแบบ เป็นต้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคอนแท็กต์เลนส์ชนิดใดก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดคือการระมัดระวัง เรื่องความสะอาด เนื่องจากคอนแท็กต์เลนส์ต้องสัมผัสกับกระจกตาโดยตรงและเป็นระยะเวลานาน หากคอนแท็กต์เลนส์สกปรกอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่กระจกตาและอาจลุกลามถึง ขั้นตาบอดได้ภายใน 2 วัน

น.พ.ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อว่า การใช้คอนแท็กต์เลนส์ควรศึกษาและปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลรักษาคอน แท็กต์เลนส์อย่างเคร่งครัด สำหรับคอนแท็กต์เลนส์ควรเก็บรักษาไว้ในน้ำยาแช่คอนแท็กต์เลนส์โดยเฉพาะและ ปิดฝาให้สนิท อีกทั้งควรเปลี่ยนน้ำยาแช่เลนส์ทุกครั้งที่ใช้และไม่ควรใช้น้ำยาแช่เลนส์ ซ้ำๆ ห้ามล้างคอนแท็กต์เลนส์ด้วยน้ำประปา เนื่องจากสารคลอรีนที่อยู่ในน้ำประปาอาจกัดกร่อนเลนส์ทำให้เลนส์เสื่อม คุณภาพ ขุ่นมัวหรืออาจมีสิ่งเจือปนทำให้เลนส์สกปรกได้ นอกจากนี้ผู้ที่ใช้คอนแท็กต์เลนส์ควรล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสทุกครั้ง

"วัยรุ่นที่นิยมใส่คอนแท็กต์เลนส์ตามแฟชั่น ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยให้มากๆ เพราะนอกจากเสี่ยงต่อตาบอดแล้ว ยังพบว่ามีวัยรุ่นบางกลุ่มแยกกันซื้อคอนแท็กต์เลนส์คนละแบบแล้วนำมาแลก เปลี่ยนกันใส่ ซึ่งสามารถทำให้ติดเชื้อเอดส์ได้" น.พ.ฐาปนวงศ์กล่าว

ด้าน ตัวแทนพนักงานขายร้านโชคดีการแว่น คอนแท็กต์เลนส์ ที่เดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน กล่าวว่า ที่ร้านมีบิ๊กอายส์หลากหลายรุ่น หลายสีให้ลูกค้าเลือก แบ่งเป็นรายวัน ราย 2 สัปดาห์ และรายเดือน บิ๊กอายส์จะมีทั้งแบบสายตาปกติและสายตาสั้น ราคาจะอยู่ที่ 450-550 บาท อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาซื้อจะเป็นวัยรุ่นทั้งชายและหญิง แม้กระทั่งหนุ่มสาววัยทำงานก็มาเลือกซื้อเช่นกัน สำหรับข้อแนะนำ วิธีการใช้นั้นจะมีอยู่ในกล่องผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว โดยผู้ใช้จะต้องถอดออกมาแช่น้ำยาวันต่อวัน ห้ามใส่นอน เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้

"ความจริงแล้วการใส่บิ๊กอายส์จะอันตรายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ถ้าผู้ใช้ทำตามคำแนะนำจะไม่เกิดปัญหา ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีลูกค้าคนใดเกิดการระคายเคืองตา หรือเกิดการติดเชื้อแต่อย่างใด"

ขณะที่ร้านเพอร์เฟค อายแวร์ กล่าวว่า ที่ร้านจะมีบิ๊กอายส์ให้เลือกหลายยี่ห้อ มีทั้งสายตาปกติและสายตาสั้น การใส่บิ๊กอายส์นั้นจะทำให้ตาโตขึ้น สดใสขึ้น ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาซื้อจะเป็นวัยรุ่นทั้งชายและหญิง รวมทั้งหนุ่มสาววัยทำงานก็มาเลือกซื้อเช่นกัน นอกจากนี้สำหรับข้อแนะนำ วิธีการใช้นั้นจะมีอยู่ในกล่องผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว ผู้ที่ใช้จะต้องถอดออกมาแช่น้ำยาวันต่อวันห้ามใส่นอน เพราะหากใส่นอนจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้

Loading

Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More