บิ๊กอาย กับ แฟชั่นในปัจจุบัน
เลนส์ตาโต เป็นคอนแทคเลนส์ชนิดตาโต หรือที่วัยรุ่นเรียกกันว่า “บิ๊กอาย”จะเหมือนกับคอนแทคเลนส์แฟชั่นสมัยก่อนที่มีสีสันให้เลือกมากมาย แต่ที่แตกต่างคือ เลนส์สีบริเวณตรงกลางดวงตาจะเป็นเลนส์ใสปกติแต่บริเวณขอบเลนส์จะมีสีดำ ทำให้ขอบตาคุณดูชัดมากขึ้น มีราคาตั้งแต่ 450 – 2,000 บาท
บิ๊กอายทำตาบอด ติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์เตือนวัยโจ๋
แพทย์เตือนอันตรายจากคอนแทกท์เลนส์ "บิ๊กอาย" หลังมีผู้ป่วยติดเชื้อสูโดโมแนสที่ตา ทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาตัวแล้ว 4 ราย จักษุแพทย์ ระบุ เป็นแบคทีเรียร้ายแรงลามกินตาดำได้ภายใน 2 วัน รักษาไม่ทันถึงขั้นตาบอด ผู้ป่วยรับหาซื้อง่ายแม้กระทั่งตามตลาดนัด จี้ภาครัฐออกมาเข้มงวด เพราะจัดอยู่ในกลุ่ม เครื่องมือแพทย์ ต้องได้รับอนุญาตจาก อย.
เลดี้กาก้า นำเทรนบิ๊กอาย อเมริกาเตือน Big Eye เป็นอันตราย ผิดกฏหมายในอเมริกา
นับตั้งแต่กระแสความโด่งดังของ Music Video "Bad Romance" ของนักร้องสาวชาวอังกฤษ Lady Gaga ทำให้วัยรุ่นอเมริกันเริ่มนิยมใส่ Contact Lenses ที่เรียกว่า "Big Eye" กันเป็นจำนวนมาก จนหลายฝ่ายต้องออกมาเตือนในการใช้และการเลือกซื้อ เพราะวัยรุ่นจำนวนมากนิยมสั่งซื้อผ่านอินเตอร์เน็ต จากร้านค้าออนไลน์ในแถบเอเชีย...
อันตรายจากการใช้คอนแทคเลนส์แฟชั่น "บิ๊กอาย"
กระแสคอนแทคเลนส์แฟชั่นได้แพร่ระบาดเข้าสู่ประเทศไทยเมื่อประมาณต้นปี 2549 ที่ผ่านมา โดยวัยรุ่นไทยนิยมใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นเพื่อให้ตา กลมโตเลียนแบบดาราเกาหลี และญี่ปุ่น คอนแทคเลนส์แฟชั่นดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันดีในนาม บิ๊กอายส์ หรือ คอนแทคเลนส์ตาโต ราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ระยะเวลาการใช้งานก็มีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 1 เดือนไปจนถึง 1 ปี
2 เม.ย. 2555
"คอนแทคเลนส์-บิ๊กอาย"จำเป็นแค่ไหนกับ"คนบันเทิง"
30 มี.ค. 2555
[บทความ] บิ๊กอาย อันตรายถึงตาบอด
- การเข้าเกาะติดเนื้อเยื่อและทวีจำนวนเชื้อ
- การเข้าบุกรุกทำลายเซลล์
- สร้างเอนไซม์และท็อกซินที่เป็นพิษต่อเนื้อเยื่อ
ที่มา : http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=36
โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ มัลลิกา ชมนาวัง
ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
29 มี.ค. 2555
3 ข้อ เตือนใจก่อนใส่บิ๊กอาย
1. ใช้คอนแทคเลนส์ ที่ได้รับอนุญาตจาก อย.
2. ใช้อย่างถูกวิธี
3. รักษาความสะอาดอยู่เสมอ
รวมทั้งข้อควรระวังในการใช้ ทั้งนี้ ผู้ขายต้องขายเฉพาะคอนแทคเลนส์หรือเลนส์สัมผัสที่ได้รับอนุญาตจาก อย. และต้องดูแลให้มีฉลากและเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ตามที่ได้รับอนุญาตไว้ รวมถึงการโฆษณาคอนแทคเลนส์หรือเลนส์สัมผัสใดๆ ต้องได้รับอนุญาตจาก อย. ก่อน
อันตรายจากการใส่ บิ๊กอาย |
ดังนั้น เพื่อการใช้คอนแทคเลนส์อย่างปลอดภัย อย.จึงขอมอบคาถา 3 ข้อ คือ
1. ใช้คอนแทคเลนส์ที่ได้รับอนุญาตจาก อย.
2. ใช้อย่างถูกวิธี
3. รักษาความสะอาดอยู่เสมอ
ที่มาจาก : กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค อย.
27 ส.ค. 2554
วิธีเลือกน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์
- เลือกใช้แบบล้าง แช่ และกำจัดคราบโปรตีนในขวดเดียวน้ำ ยาในรูปแบบนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเวลาเข้าตา สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดีพอสมควร ปัญหาที่เกิดมักเกิดจากการที่น้ำยาประเภทนี้ล้างทำคราบโปรตีนติดแน่นได้ไม่ค่อยดีนัก ปัจจุบันมักมีการโฆษณาว่าน้ำยาประเภทนี้ไม่ต้องถูเลนส์ก็ล้างได้ดี ในความเป็นจริงแล้วการถูเลนส์ยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่ เพื่อให้น้ำยาประเภทนี้ใช้งานได้ดีปัญหาอีกประการ คือ น้ำยานี้โดยมากจะเหลือคราบสกปรกไว้ ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ผู้ใช้เกิดการแพ้สารกันเชื้อโรคในน้ำยานั้น น้ำยาประเภทนี้ใช้ได้ดีที่สุดกับคอนแทคประเภทใส่แล้วทิ้ง
- เลือกใช้แบบล้าง แช่ และกำจัดคราบโปรตีนแยกขวดกัน พวกนี้ส่วนมากจะล้างได้ดีกว่า สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดีถึงดีมาก มักมียาเม็ดที่ให้แช่ไว้สำหรับล้างคราบโปรตีนทุกๆ เดือน ปกติแล้วน้ำยาชนิดนี้ใช้ได้ดีกับเลนส์ที่ใส่ประจำ เพราะล้างคราบโปรตีนได้ดี ข้อเสียคือ อาจมีอาการแพ้จากสารประกอบในน้ำยาได้ไม่ค่อยสะดวก แล้วถ้าล้างน้ำยาล้างออกไม่หมดก็จะทำให้ตาเจ็บ ตาแดง และอาจต้องไปพบแพทย์อีกด้วย
- เลือกใช้แบบ Hydrogen Peroxide กลุ่มน้ำยาในรูปแบบนี้มักแยกเป็น 2 ขวด ขวดแรกเป็นล้างเลนส์ก่อนฆ่าเชื้อ ขวดที่สองใช้ใส่ในขวดพิเศษพร้อมกับเลนส์ ส่วนมากอันนี้ต้องแช่ไว้ค้างคืน น้ำยาประเภทนี้ฆ่าเชื้อได้ดีมาก ใช้ได้กับคอนแทคเลนส์เกือบทุกชนิด แต่ไม่ค่อยสะดวกเพราะใช้เวลานานในขั้นตอนต่างๆ และเมื่อแช่เลนส์แล้วเอามาใช้ทันทีไม่ได้ จำเป็นต้องแช่ให้ครบกำหนดเวลา ถ้านำเลนส์ออกมาใส่ก่อนครบกำหนดเวลาก็อาจทำให้ตาเจ็บ ตาแดง ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
ที่มา : variety.teenee.com/foodforbrain/37740.html
14 ส.ค. 2554
วิธีสังเกตความผิดปกติของดวงตา และแนวทางการรักษา
การติดเชื้ออย่างเบาๆมีตั้งแต่ตาแดง กระจกตาอักเสบ แผลที่กระจกตา ไปจนถึงติดเชื้อเข้าไปในลูกตาซึ่งสองชนิดหลังสามารถทำให้ตาบอดได้เลยทีเดียว และที่เจอได้ต่อมาก็คืออาการตาแห้ง เจอได้บ่อยในผู้ป่วยที่ใช้คอนแทคเลนส์มานานๆหรือแพ้น้ำยาล้างหรือคอนแทคเลนส์ ผลข้างเคียงทั้งสองอย่างนี้เจอได้มากขึ้นหากว่าใช้ผิดวิธี เช่น ใส่นานเกินวันละ 8 ชั่วโมง ใส่แล้วนอนหลับค้างคืน หรือล้างน้ำยาได้ไม่สะอาดพอ , การใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่เหมาะสม เช่น ออกซิเจนผ่านน้อยไป เลือกขนาดความโค้งไม่เหมาะสม หากพบว่าใส่แล้วเกิดอาการเคืองตา ควรตรวจสอบว่าคอนแทคเลนส์ที่ใช้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมหรือไม่ ควรถอดออกแล้วพักการใช้เปลี่ยนไปใช้แว่นสายตาแทน หากตาแดง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูว่ามีแผลที่กระจกตาหรือไม่ เพราะแผลเหล่านี้ไม่สามารถสังเกตได้ง่ายๆด้วยการมองตาเปล่า
ผลข้างเคียงเหล่านี้สามารถพบได้ แม้ว่าจะใช้คอนแทคเลนส์ที่มีคุณภาพดีอย่างถูกต้องและปฏิบัติทุกวิธีอย่างเหมาะสม แต่ผลข้างเคียงจะเพิ่มขึ้นได้มากหากใช้คอนแทคเลนส์ที่คุณภาพไม่ดีหรือผิดวิธีได้แก่
- คอนแทคเลนส์ที่ไม่ได้มาตรฐาน บางชนิดอาจจะมีสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตาได้ หลายครั้งพบว่าใส่ๆไปแล้วสีหลุดออกมาติดลูกตาเลยก็มี
- พวกคอนแทคเลนส์กลุ่มประดับ หลายตัวเป็นชนิดแข็งกว่าปกติ พวกนี้บาดระคายเคืองง่าย ออกซิเจนผ่านน้อย โอกาสเกิดการติดเชื้อสูงกว่าปกติอยู่แล้ว
- ในกลุ่มที่มีสีสรรแปลกๆ ต้องระวังเรื่องความร้อนไว้ด้วย เนื่องจากมีรายงานว่าถ้าหากใส่แล้วไปเจอความร้อนหรือเลเซอร์เวลารักษาสิว สีที่ปกติไม่หลุดออกมาก็สามารถหลุดออกมาได้ (เลนส์ไม่ละลาย แต่สีละลายหลุดมาติดกับลูกตาสีสรรสดใสและงดงาม)
ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนซื้อคอนแทคเลนส์มาใช้
ชนิดของคอนแทคเลนส์กับเหตุผลในการใส่
- คอนแทคเลนส์ชนิดรายปี พวกนี้คือกลุ่มที่ใช้กันมาตั้งแต่อดีต มักจะแข็งกว่าแบบอื่น
- คอนแทคเลนส์ชนิดรายเดือน
- คอนแทคเลนส์ชนิดราย1-2สัปดาห์
- คอนแทคเลนส์ชนิดรายวัน ใช้แล้วทิ้งเลยกันทีเดียว